ปีนี้ถึงแม้ว่าจะเผาจริง เศรษฐกิจไม่ดียังไงก็แล้วแต่ก็ยังเชื่อมั่นว่า Brand ที่ได้เปิดตลาดไปก่อนหน้านั้นแล้ว ถ้าอยู่ตัวหรือ มีคนรู้จักจริงน่าจะอยู่รอดได้ในเศรษฐกิจปีนี้ รวมถึงต่อยอดออกไปได้อีกต่างหากอะไรถึงมั่นใจว่าน่าจะทำได้เน้นเฉพาะภาพรวมของ Internet Online นะครับ ส่วนภาพรวม Off Line เช่นการเปิด Friendshine นั้นน่าจะขยายตัวอีกอย่างมากในปีนี้ อะไรถึงเป็นเช่นนั้นในมุมมองผมที่ได้พบปะผู้บริหารมาหลายคนเป็นดังนี้
ภาพรวมของ Brand สินค้าที่มีชื่อแล้ว เอามาต่อยอดเป็น Communities แบบฝากขายใน Internet หลายคนคงจะงง คืออะไร ?
หลายปีก่อน ตลาดจะเป็นแบบ C 2 C ทุกคนถ้าจะขายของมือ 2 ก็คงนึกถึง E-marketplace ไม่ว่าจะเป็นทางด้าน Thaisecondhand , Pantipmarket จนเว็บอื่น ๆ เรื่อยมาจนกระทั่ง ขอมี Website ตัวเองดีกว่า จึงเป็นตลาดแบบ B2C คือ เปิดหน้าร้านสินค้าเพื่อขายให้คนเข้า Website แล้วสามารถ ขายของได้ จนเลยถึงเป็นการชำระเงินแบบ Online ได้ แต่การตลาด B2C ในมุมมองผมมันจะเริ่มเข้าสู่ภาพรวมของ B (Business ครอบ Businee อีกครั้งหรือเรียกว่า Multi – Merchant อีกที) อะไรที่เป็น
เช่นนั้น การสร้าง Website ขึ้นมาขายของจน Brand ตัวเองเป็นที่รู้จัก ซึ่งเจ้าของ Brand สินค้าอาจจะไม่ได้ขายของที่ตัวเองผลิตขึ้นมาทุกอย่าง แต่อาศัย Supplier จัดส่งสินค้ามาที่ Brand เจ้าของ โดยให้ เจ้าของ Brand เป็นคนขายให้ แล้วกินส่วนต่างไป ซึ่งเป็น Model Win Win ด้วยกันทั้ง 2 – 3 ฝ่าย
การแข่งขันใน Brand ตัวเองให้แข็งแกร่งในสมัยนี้ต้องอาศัย Communities ของสินค้าตัวเองเท่าที่ผมได้สัมผัสจริงกับผู้ประกอบการหลาย ๆ ท่านเขาจะให้ความสำคัญกับ contents , สินค้า , Web board ดูแลแบบ ใกล้ชิดเพื่อให้แนะนำบอกต่อ ผลสุดท้ายคือความสำเร็จของ Web ลูกค้าเอง