ธุรกิจนายหมื่นล้าน ใช้ปรัชญาสอนลูกน้อง สำหรับทำงานปี 2014

seabiscuit
seabiscuit

ยอมรับว่า ไม่เคยดูหนังเรื่องนี้เลย แต่วันนี้ต้องมาฟัง Plan ปี 2014 กับ ทีม Director ทั้งบริษัท ฯ  ซึ่งหลังจากจบงานมาแล้วเห็นว่ามันเป็นประโยชน์ และ น่าจะเอามาเขียนใน Blog เพราะมันมีอะไรหลายอย่างที่อยากมาเล่าให้ฟัง บางครั้ง อาจจะมาคิดได้ว่า  ทำไม ผมเอง ถึงมาทำงานที่นี่ได้ ทั้ง ๆ ที่ภาษาอังกฤษ ก็ งู ๆ ปลา ขับรถยนต์ก็ไม่ได้ ทั้ง ๆ ที่อยู่บริษัท รถเช่า โดยที่นายมีสินทรัพย์ เป็นหมื่นล้านจ้าง มืออาชีพ เก่ง ๆ ได้มากมาย

ผู้บริหาร คุณสุขุม  (เจ้าของ Thai Rent A Car) ผมจะเรียกแกว่า “นาย” ตลอด  นายเล่าจากธุรกิจเดิม บจ. เพชรบุรีคาร์เร้นท์ เป็นธุรกิจครอบครัว มีรถเพียง 30 – 40 คัน ปล่อยให้เช่า ซึ่ง ในครอบครัวแก บอกว่า ขายไปเถอะ ธุรกิจนี้ ไม่ค่อยได้อะไรเท่าไหร่คู่แข่งก็เยอะ กำไรก็น้อย ซึ่ง นายเป็นคนเดียวที่รับธุรกิจนี้จากครอบครัวมาต่อยอด จากเมื่อ 10 ปีที่ผ่านมาจนถึงวันนี้ เป็น Thai Rent A Car ที่มีรถเช่าเป็นอันดับ 1 ของประเทศไทย แกได้ผ่านอะไรมาบ้าง ซึ่ง แกได้เล่าเรื่องนี้ ผ่าน เรื่อง SEABISCUIT

Seabiscuit   เป็นภาพยนตร์ที่สร้างจากเรื่องจริงของ ชาร์ล โฮเวิร์ด (นำแสดงโดย เจฟฟ์ บริดจ์) อดีตช่างซ่อมรถ ที่ผันตัวเองจนกลายเป็นคนร่ำรวย ด้วยการประกอบอาชีพเป็นเซลส์ขายรถยนต์ เขามีม้าตัวเล็ก ๆ ตัวหนึ่งชื่อ Seabiscuit ต่อมา Howard ได้จับมือกับอดีตนักมวยที่ตาเสียคนหนึ่ง ชื่อ เรด พอลลาร์ด (โทบีย์ แมไกวร์) ให้เขามาเป็นจ็อกกี้ขี่เจ้า Seabiscuit โดยมี ทอม สมิธ (คริส คูเปอร์) อดีตผู้ฝึกม้ามือดี มาเป็นเทรนเนอร์ให้ เรื่องราวของ Seabiscuit กลายเป็นที่สนใจของคนทั้งประเทศอเมริกา เนื่องจากเจ้าม้าตัวเล็กนี้ ชนะรางวัลเกียรติยศในปี 1938 ที่สามารถเอาชนะม้าแข่งที่ไม่เคยแพ้ใครลงได้ ตอนที่ฮอลลีวูดนำมาสร้างเป็นหนังเมื่อปี 2003 เรื่องราวของ “Seabiscuit” ม้าแข่งชื่อดัง ขวัญใจคนอเมริกัน ก็เป็นอีกกระแสหนึ่งที่มาแรงในตลาดหนังสืออเมริกา ชนิดที่เรียกว่า แรงเป็นสองรองจาก แฮรี่ พอตเตอร์ เล็กน้อย เพราะ Seabiscuit นั้นเป็นม้าที่มีตัวตนจริง ๆ  สิ่งที่ทำให้มันมีชื่อเสียงก็คือ มันเป็นม้าที่มีขนาดเล็กกว่าม้าแข่งทั่วไป จึงเป็นม้านอกสายตา ที่ไม่มีใครคาดคิดมาก่อนว่ามันจะชนะม้าแข่งฝีเท้าดีตัวอื่นได้ แต่ในที่สุด Seabiscuit ก็ได้พิสูจน์ให้ทุกคนเห็นว่ามันทำได้ และทำได้ดีเยี่ยมเสียด้วย

นายผม กำลังบอกใน การสร้างธุรกิจว่า   

คู่แข่ง ของธุรกิจรถเช่ามีมากมาย กว่าจะเปิดสาขาต่างจังหวัด ต้องรับกับการขาดทุน แต่ก็ต้องทำ , การไปเปิด Road Show ต่างประเทศ นามบัตรของเรา คนไทยด้วยกันเองก็ยังไม่เอา , การไปติดต่อแบบ No Name โดนปฏิเสธ มาตลอด ทุกอย่างผ่านอุปสรรคมาไม่เคยคิดจะยอมแพ้ เหมือนม้า Seabiscuit  มันไม่สมบูรณ์ 100 % แต่หัวใจมันสู้เกิน 100 % จากการต่อสู้ กับม้าตัวใหญ่ ๆ  คู่แข่ง ที่มีเงินมากกว่า ชื่อเสียงมากกว่า )  ระยะเวลามันเป็นเครื่องพิสูจน์แล้วว่า ม้าที่แกปั้นมา องค์กร นี้ มัน แข่งกับ ระดับ ม้าตัวใหญ่ได้แบบไม่กลัวใคร จนกระทั่งขึ้นสู่อันดับ 1  ขององค์กรรถเช่าในประเทศไทย

Seabiscuit ศูนย์รวมแห่งจิตใจ ให้เปรียบเสมือน องค์กร เรา พนักงาน มีความเชื่อว่าถ้าเราจะชนะคู่แข่งได้ ต้องเชื่อว่ามันต้องแข่งและชนะได้  ทุกอย่างใช้ใจสู้ให้ถึงที่สุด 

ปรัญชา จากนักธุรกิจผู้ทำมาตั้งแต่ อดีด จนสินทรัพย์ หมื่นกว่าล้าน  สอนผมที่เป็นพนักงานในห้อง ได้ฟัง !!!!!!  ผมฟังแล้ว อดไม่ได้ที่เอามาเขียนใน blog เพื่อสร้างกำลังใจตนเอง และคนอื่น ๆ ที่เข้ามาใน Blog

ทีนี้ก็พอมาดูตัวเอง  ทำไมเรา  โง่ Eng // ไม่ชอบขับรถยนต์ทั้ง ๆ ที่อยู่บริษัท ฯ รถเช่า  ทั้ง ๆ ที่นายเองก็มีสินทรัพย์มากมาย จ้าง ระดับ เซียน ๆเข้ามาทำงานได้อย่างสบายแต่มาจ้าง เรา เพราะ เขามองพนักงานทุกคน ไม่จำเป็นต้องเหมือนองค์กรอื่น ๆ Perfect จากมหาวิทยาลัยชั้นนำ  แต่นายมักให้ “โอกาสมากกว่า ”  นายจะบอกคู่แข่งเราเป็นแบบนี้ สู้ ไหม ถ้าสู้ต้องให้สุดตีนนะ ใช้ใจ ทำงานมากกว่า ประกาศนีย์บัตร ไม่เคยเห็นนายถามเลยว่าจบมาจากไหน เห็นถามอยู่อย่างเดียว จะ คว่ำคู่แข่งได้อย่างไร ?

 

Webmaster

Anantachai ittiworapong

 

 

 

 

 

 
 

Comments

comments

Leave a Comment

*

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.