ตั้งแต่จำความได้ จากลูกแม่ค้าขายเต้าทึง น่าจะ 20 กว่าปีมาแล้วมั้ง ตอนนั้นยังเด็กไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ไปไหว้เสด็จพ่อ ร.5 โดยผมไปช่วยแม่หลังจากขายเต้าทึงที่เตาปูน ก็เก็บร้านเร็วหน่อยแล้วก็ไปไหว้ท่าน เราไปขอทั้งงาน เรียน และก็ขอให้มีเงินส่งตัวเองเรียน ทุก ๆ ครั้งที่ไป ลานพระบรมรูป ในวันอังคารก็จะเห็นโต๊ะหมู่ บูชา ถวาย ดอกกุหลาบเต็มไปหมด เราเองก็ไม่รู้หรอกว่าไปไหว้ทำไมเพราะเกิดไม่ทันท่าน แต่ในใจคิดว่าท่านคงเหมือน พระหมู่บูชาที่ ขอแล้ว สำเร็จผลตามที่เราตั้งใจ…. วันนี้เพิ่งมาเข้าใจแล้วว่าทำไม คนสมัยเมื่อ 100 ปีถึงได้รักพระองค์ท่าน รัชกาลที่ 5 มากมาย จนมาถึงวันนี้…. วันที่ผมไม่มีในหลวง
ใกล้ชิดพระองค์ท่านมากที่สุดได้แค่ภาพถ่าย
ความฝันในวัยเด็กมัธยม ถ้าสอบ Entrance ติดได้รับปริญญาจากในหลวง คือ สิ่งที่ใกล้ชิดและความฝันที่สุด แต่ชีวิตคนเราไม่เท่ากัน จบรามคำแหงได้รับปริญญากับพระเทพ ฯ อันนี้ก็สุด ๆ ในหัวใจละ ความใกล้ชิดกับพระองค์ท่านที่ใกล้ที่สุดคงเป็นการถ่ายภาพ กับภาพท่าน ในงานต่าง ๆ และ งานวันที่ 5 ธันวาคม ถ้ามีโอกาสก็จะไป ตามกระแสไหม คิดว่าไม่นะ คิดว่าอยากจะไป เห็นท่าน ไปรับเสด็จท่านใจมันยิ้มบอกไม่ถูก ณ ตอนนั้นก็ไม่รู้ทำไม
อายุวันนี้ 42 ปี บนแผ่นดินประเทศไทย
คำว่า “ให้ ” โดยไม่ต้องการผลตอบแทน ท่านคือ ที่สุดของพระมหากษัตริย์
สมัยวัยเรียนมัธยม
เมื่อแม่ต้องขายเต้าทึง ส่งลูกเรียน 5 คน บวกพ่อ 1 คน รถเข็น 1 คัน หน้าร้าน สมัยนั้นอยู่ ตลาดพลู หน้าร้านไม่มี อาศัยไปจอดริมถนน แล้วพึ่งหน้าร้านบ้านเขาติดตลาดแล้วขายของ โดนเขาไล่บ้าง ขายได้บ้างขายไม่ได้บ้าง ตอนนั้นยังเรียนอยู่ ก็ปากกัดตีนถีบ แต่ถ้าไม่มีแม่เราก็คงจะอดตาย ไม่ได้มาเขียนอะไรในวันนี้ จนกระทั่งแม่ บอกว่า แม่จะไปขายเตาปูน แล้วอีกที่ตลาดพลู ลูก ๆ ต้องช่วยกันขายเพราะ หาเงินจากการขายเต้าทึง มันไม่พอกินแค่ที่เดียว
วันที่ต้องมาขายเต้าทึงเข็นรถเข็น แล้วมาจอดหน้าร้านก๋วยเตี๋ยวเนื้อติดกับร้านขายยา หลีแซ คนที่อยู่ตลาดพลูเมื่อก่อนจะรู้จัก ไปจอดหน้าบ้านคนอื่นเขา ค่าเช่าก็ไม่เสีย แต่ ทำไม เจ้าของร้านค้า ยอมเสียค่าไฟ เปิดไฟ ให้ เรา และ พี่ชาย ขายของ ไม่เก็บตังค์ แถมยังให้หลบฝน ยืมโต๊ะ เก้าอี้ ให้ลูกค้าได้ไปนั่ง (ปัจจุบันทุกอย่างมันเปลี่ยนไปแล้ว)
สิ่งที่คิด หลาย ๆ อย่างในอดีต มันเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ มากว่าสมัยนี้ ผมไม่รู้ว่า เจ้าของร้านคิดยังไง ไม่ไล่ที่ ไม่เก็บตังค์แถมยังให้พึ้นที่ขายกับเราโดยไม่คิดตังค์ นี่คือสิ่งที่ได้รับจากสมัยก่อน ผมคิดว่า พระองค์ท่าน คงเป็น Idol ให้คนสมัยก่อน ว่ามีแล้วควรรู้จักให้และแบ่งปัน ทำให้ผมในวัยเด็กสมัยนั้น ผมได้รับการเอ็นดูจาก แม่ค้า ผู้สูงอายุ เป็นอย่างมาก
ผมคิดว่า ผู้ใหญ่ ที่ให้ความเอ็นดู ไม่ว่า เป็น แม่ค้า พ่อค้า ที่ตลาดพลู และ พ่อค้าแม่ค้า ที่เตาปูน ในอดีต ปัจจุบันท่านน่าจะลาจากโลกนี้ไปแล้ว เหมือนแม่เราที่จากเราไปแล้วเมื่อหลายปี ยังคงความรู้สึกว่า การส่งต่อ ว่า เมื่อมีแล้ว ควรจะแบ่งปัน มันเป็นความรู้สึกว่า การส่งต่อจากผู้ใหญ่ ถึงรุ่นเราด้วยความรู้สึก ทุกวันนี้ ผมยังแปลกใจตัวเองเลยว่า การตืนเข้าไปวัดความดันผู้สูงอายุในซอยทุก ๆ วันหยุด มันเป็นอะไรที่มีความสุข และ การได้บริจาคเงินกับผู้ป่วยผู้ยากไร้ที่โรงพยาบาล และ การรักษาร่างการตัวเองให้แข็งแรง และ บริจาคเลือด ทุกครั้งเมื่อมีโอกาส ยังคงทำถึงทุกวันนี้
TV ขาวดำ เครื่องแรก
สมัย 20 กว่าปีที่แล้ว เราเติบโตมากับ รายการในหลวงเดินทาง กับ การ์ตูน ขาวดำ กับ ภาพที่น่ารักเวลาดูข่าวท่านกับสมเด็จย่า มันทำให้เรารู้สึก ว่าเรารักแม่เนอะ ไม่กล้าหอมแม่ เห็นท่านหอมแม่ เราทำบ้าง รู้สึกดี ความผูกพันนี้มันเกิดในใจ มันเป็นความรู้สึกที่หล่อหลอมมาด้วยความรัก และทำให้คน อย่างเราเป็นคนขึ้นมา
คำว่า คน ในที่นี้ คือ รู้จักคำว่า ให้ รัก เอื้อเฟื้อ โกรธเป็น หายเป็น เรียนรู้ และ อดทน เพราะ ชีวิตเกิดมา 1 คน มันไม่ได้เกิดจากตำราว่าจะเป็นอะไรในทุก ๆ ปี แต่ สิ่งที่ผ่านมาแต่ละวัน มันมี สุข ทุกข์ อะไรเต็มไปหมด คำสอนที่เราเคยได้ยินแบบผ่าน ๆ เข้าใจอะไรยาก ๆ ในงานรับปริญญาบัตร แบบไม่อยากฟัง ไม่อยากจำ แต่แปลกมาก เมื่อเราอายุมากขึ้นแล้วออกไปทำงาน เรามักจะเจอ ปัญหา การแก้ปัญหาถ้าไม่มีคำสอนจากท่านดี ๆ คงเป็นการแก้แค้น ทำฉันได้ คงเอาคืน ไม่ว่าทางใดทางหนึ่ง
42 ปี ภายใต้ร่มโพธิ์ของในหลวง
ผมโชคดีมาก ที่เกิดในรัชกาลที่ 9 จากผ้าขาว 1 ผืนที่เกิดมา ผมมีท่านเป็นตัวอย่างที่ดี ผมรักแม่ รักครอบครัว ผมรู้จักให้ ผมรู้จักคำว่าอดทน ผมรู้จักคำว่าเรียนรู้ ผมรู้จักคำว่าแบ่งปัน ถึงแม้ผมเรียนไม่เก่ง โง่ Eng แต่ ผมก็ไม่เคยท้อในแต่ละวันผมคิดว่า ผมมีพระองค์ท่านในความทรงจำ ที่ท่านเป็นตัวอย่างที่ดีให้ผมได้ซึมซับ
วันนี้ในห้องพระ
เป็นภาพแรก เรียนการทำกรอบรูป วิทยาศาสตร์ที่ไม่คิดว่า จะต้องนำภาพนี้เข้ามาในห้องพระ เพื่อเราจะสวดมนต์ทุกวันก่อนไปทำงาน
ผมเขียนคำราชาศัพท์ไม่เก่ง เขียนไปจากความรู้สึกที่มีต่อพระองค์ท่านตั้งแต่เกิดมาจนมาจับ keyboard ณ ตอนนี้ คิดว่าผมโชคดีที่สุดที่เกิดในแผ่นดินไทยในรัชกาลที่ 9 ผมขอติดตามเป็นรอยพระบาทท่านทุกชาติไป
ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ
Webmaster
Anantachai ittiworapong
16/10/2559