ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมหลาย ๆ คน รวมถึงบริษัท ฯ Agency ต่าง ๆ มาลงการตลาดแบบการใช้ You tube มากขึ้น เพราะอะไร ? ทีแรกอ่านตามหลักวิชาการ ของแต่ละแห่ง อ่านผ่านตาสรุปใจความคือ ต้นทุนมันแทบจะไม่ต้องเสียตังค์ซักบาท เมื่อได้ทำผลงานวีดีโอออกมา แล้วทำการเผยแพร่ต่อใน you tube ขึ้นอยู่กับว่าผลงานนั้นคนดู จะเป็นคน share หรือไม่ก็แค่นั้น แต่หลังจากศึกษาหนังสือการตัดต่อ Video จากงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติพอเข้าใจหลักการละ อือ ไม่ยากอย่างที่คิด ใช้มือถือ HTC Desire เป็นตัวเล่าเรื่องดีกว่า
ลองของจริงเลยดีกว่า
วันที่ 13 เมษายน 2554 เพราะอยากจะไป รดน้ำขอพร พระพุทธสิหิงค์ที่ ศาลาว่าการ กทม. โชคดีหน่อยไม่เปียกอาจจะเพราะสูงอายุแล้วมั้ง 555
หลังจาก Launch ไปละ ก็ไม่ได้เปิดดูอะไร และ ก้ไม่ได้ post บน face book เลย ผลปรากฏว่ามีคนดูด้วย ต้อง 86 คน รวม 4 วัน
วันที่ 15 เมษายน 2554 High light สีลม
หลังจากคิดงานให้ลูกค้ารายนึงในการทำ CRM ได้เรียบร้อย ก็ ถือโอกาส ไปสาดน้ำที่สีลมแก้เครียด ไม่ได้ตั้งใจจะไปถ่าย video แต่อย่างใด พอดีอยู่บนทางเดินรถไฟฟ้า ก็เลยเอามือถือมาถ่ายภาพ ลองคิดอีกที ถ่ายวีดีโอไปฝากเผื่อคนไม่ได้ดูด้วยดีกว่า
งานนี้มีการ post ลงใน Face book และ บอกต่อใน Twitter ผลปรากฏว่า 3 ชม หลังจากการเผยแพร่ใน you tube
มีคนดูมากถึง 534 คน หลังจากตื่นมาตอนเช้า
เมื่อเราเป็น Sales แล้วมองดูแบบนี้คือ โอกาศงาม ๆ เลย ถ้ามีคนดูแล้วเราเอาโฆษณาใส่ลงไป แล้วให้ Link กลับเข้ามาที่ blog เราที่พร้อมจะขายของต่อ เท่ากับ ว่า เราลงทุนแค่มุมมอง กับ Production เท่านั้นเอง ถือเป็นเครื่องมือในการขายอีกชนิดหนึ่งที่ต้นทุนแทบไม่ต้องลงทุนอะไรเลยมีทีวีให้เราฉายตลอดเวลา ณ ตอนนี้ไปเปิดอีก 1 Blog เกี่ยวกับ Video ทำเสร็จไปละช่วงนึงที่ http://live.idea2mobile.com
ปล. อ่านหนังสือ ฟังเขาเล่า ดูผ่าน you tube มาหลาย ๆ ครั้ง ก็ไม่เอะ ใจ ลองมาทำเองแล้วตื่นเต้นแบบบอกไม่ถูกจริง ๆ