ส่วนตัวของการทำงานทางด้าน Sales หรือพนักงานขาย รายได้ต่อเดือนจะมาจากเงินเดือน + ค่าคอมมิชชั่น ซึ่งแต่ละเดือน ขึ้นอยู่กับผลงานรวมถึงการเก็บเงินจากลูกค้าถึงจะทำเรื่องเบิกเงินค่าคอมมิชชั่นได้ รายได้แต่ละเดือนย่อมไม่เท่ากัน แต่ปัจจุบันต้องยอมรับว่าค่าใช้จ่ายของ Sales ในการออกไปพบลูกค้าแต่ละครั้งนั้น ค่าใช้จ่ายจะประกอบไปด้วย ค่าน้ำมัน ค่าซ่อมรถ ค่าอาหาร ค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ระหว่างทางเช่น ค่ากาแฟนอกสถานที่ ค่าข้าวในร้านอาหารกินฆ่าเวลา ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายที่จะต้องจ่ายแต่ละครั้ง รวมถึงราคาทุกอย่างนั้น ขึ้นมาแบบ 1,000 บาทใช้ได้ไม่เกิน 3 วัน ถามว่าเงินเฟ้อขนาดนี้บวกกับค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างจะสูงเป็นเงาตามตัว เราจะทำอย่างไรได้บ้างในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้
ทางเลือก ในการต่อสู้กับเงินเฟ้อ ณ ปัจจุบันตัวเลขเท่าไหร่ที่ประกาศออกมาผมไม่รู้ รู้แต่อย่างเดียวว่าเงิน 100 บาท เจอข้าวแกงจานละ 35 บาทโดยเมื่อก่อนผมซื้อในราคา 25 บาท มันแพงกว่าเดิม เกือบ 10 บาทผมให้ rate เงินเฟ้อ คือ 10 %
อายุเฉลี่ยของการเป็นพนักงานขายขององค์กร ไม่น่าจะเกิน 45 ปี ซึ่งเท่ากับว่า เงินค่า com + เงินเดือน จะต้องออม หรือ ลงทุน ในช่วงที่หาเงินได้อยู่ เพื่อจะได้มีเงินใช้ยามแก่ หรือ เจ็บไข้ได้ป่วย ถ้าต่อเดือนมีเงินเก็บเดือน ละ 5,000 บาท ควรจะทำอย่างไรว่าเงินออมเรา 5,000 บาทให้มีผลตอบแทน มากกว่าเงินเฟ้อที่มากถึง 5-10%
เงินออมในรูปแบบเงินฝากธนาคาร ผลตอบแทนในรูปแบบบัญชีออมทรัพย์ ถ้าเราละเลยไม่รู้เรื่องเลย จะได้ผลตอบแทนในรูปแบบ ดอกเบี้ย ออมทรัพย์ ทั่ว ๆ ไปคือไม่เกิน 1 % ผมเริ่มปิดบัญชีออมทรัพย์ สำรองเงินสดคงเหลือแค่ 3 เท่าของเงินเดือนหรือเรียกอีกอย่างว่าเงินฉุกเฉิน
หลังจากนั้นกระจายเงินไปสู่ผลตอบแทนที่ได้มากขึ้น ซึ่งตอนนี้เงินเฟ้อจะส่งผลให้ดอกเบี้ยตามธนาคารต่าง ๆ จะให้ผลตอบแทนที่มากขึ้น
(กรณีต้องการสภาพคล่องสูง แต่น้อยกว่าออมทรัพย์ธรรมดา คือ ฉุกเฉินแล้วถอนได้ แต่ได้ดอกเบี้ย 2 รอบ )
หรือมั่นใจว่าใน 3 เดือน 6 เดือนเราจะไม่ใช้เงินก้อนนี้ แปรเปลียนจากเงินฝากประจำไปลงในกองทุนเปิด ที่ให้ผลตอบแทนมากกว่า
ซึ่งผลตอบแทนข้างต้น ความเสียงเท่ากับ 0% แต่ ค่าเสียเวลาและค่าโอกาสนั้น ก็เท่ากับ 0% ผลตอบแทนที่ได้รับประมาณ เฉลียแล้ว 3% น่าจะสูงสุด ซึ่งอัตราเงินเฟ้อยังคงมากกว่าที่เราได้รับผลตอบแทน
แล้วทำอย่างไร ? จะชนะเงินเฟ้อที่ขึ้นมาได้
ผมกันเงินส่วนหนึ่งคือไปลงทุนในหุ้น ซึ่งคิดว่ามันได้ผลตอบแทนมากกว่า 6% -15% ต่อปี โดยจากการลองถูก ลองผิดในช่วงแมงเม่า 2 ปีแรก กับการลงทุนผิดหวังอย่างมาก เพราะความโลภกลัวอื่น ๆ ซึ่ง ณ ปัจจุบันได้เรียนได้ศึกษาทำความเข้าใจกับการลงทุนไม่ว่าจะเป็น Fundemetal หรือ จะเป็น Technical จาก Website ครูบาอาจารย์ลุงโฉลก ทำให้ได้ความรู้ในการช่วยบอกต่อกับเพื่อน ๆ ในโลก Social Network
ถามว่าทำไมต้องลงทุน การลงทุนคือการได้นำเงินออมของเราให้ทำงานแทนเรา โดยก่อนจะลงทุนเราต้องศึกษาบริษัท ฯ ที่เราจะเอาเงินเข้าไปทำให้ได้อ่านแนวธุรกิจของบริษัทฯได้ รวมถึงเติบโตไปพร้อมกับบริษัท ฯ อัตราผลตอบแทนที่ได้คือเงินปันผล และ Capital Gain ยากไหมที่จะเริ่มลงทุนบอกได้คำเดียวว่าโลก Online มีข้อมูลหลายอย่างให้ศึกษา ไม่มีอะไรที่ได้มาโดยง่าย และ ได้ผลตอบแทนแบบเร็วทุกอย่างต้องใช้เวลา Blog นี้ถือว่าเป็นการ Share ประสบการณ์อย่างหนึ่งในการต่อสู้กับเงินเฟ้อ ทำให้เราดำรงอยู่ได้ในภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน