180 วันได้ผ่าน ไปแล้วใน ปี 2017 และก็ห่างหายจากการเขียน Blog ทุกอย่าง หรือเรียกว่า ลบ Blog ทุกอย่างที่ตั้งใจทำมาที่เกี่ยวกับข้องกับหน้าที่การงาน เป็นเหตุผลที่รู้สืกจิตตก กับความไม่เข้าใจในวัตถุประสงค์ที่ทำมาใช้เวลาทำใจพอสมควร มีบางคำพูดจะเชิญให้ออกถ้าทำอีกครั้ง ซึ่งคิดว่าให้ผ่านช่วงเวลานี้ได้ ก็เก็บตัวยาวพอสมควร หลังจากพยายามปล่อยวาง และ พัฒนาตัวเอง เพื่อการไปสมัครงานที่อื่น เพื่อหนึจากที่ทำงานปัจจุบันที่ทำอยู่ (เวลาที่ผ่านไป ทำให้คิดอะไรได้มากขึ้น ยิ่งหนี ก็ ยิ่ง ว่างเปล่า ) สุดท้าย ก็เริ่มเข้าใจมันและหาทางออกให้ตัวเอง
พัฒนาตัวเอง ด้วยการตืนมาเรียน Online ตอน ตี 4
ลบจุดด้อยตัวเอง โดยการเรียนด้วยตัวเอง ทำได้ ประมาณ 5 – 7 วัน แต่สุดท้ายก็ต้องยอมแพ้ เพราะไปทำงานแล้วก็ทำลายสุขภาพ ด้วยการดื่ม M 150 แทนกาแฟ ส่งผลต่อสมองมีอาการเบลอมาก ในแต่ละวัน
สำหรับภาษาอังกฤษนี้ เป็นไม้เบื่อไม้เบากับชีวิตจริงวันไหนไม่เรียน เวลาฟัง ต่างชาติ ก็จะฟังไ่ม่รู้เรื่อง สรุป ก็ไม่ค่อยคืบหน้าเท่าที่ควร ปรับตัวนอนปกติ แล้ว กินข้าวกลางวันเข้าห้องสมุดมารวย เพื่อ update ความรู้ทางด้าน Online
ซึ่งได้ผลดีจาก Infographic ต่าง ๆ ทำให้เรามองงาที่ตัวเองทำอยู่ อยากเก็บ Data ทุกอย่าง เพื่ออยากจะเป็นติ่งหนึ่งในการทำงานทางด้าน Big Data หลังจากนั้นก็เริ่มเก็บข้อมูลแบบจริงจังมากขึ้น ในรูปแบบ Excel และเรียน Python ในการทำงานกับ Excel และ การใช้ Tableau ในการทำ Graph รู้สึกมีความตืนเต้นที่ได้เรียนรู้อะไรใหม่ ๆ
เพิ่งทำได้ในเดือน 6 โดยทางน้องบีคนเดิมสอนความรู้ให้ คิดว่าคงจะศึกษาไปเรื่อย ๆ
สมัครงาน กับการสัมภาษณ์งาน
ทิ้งใบสมัครงานใน JobsDB / Linkedin และ ทางน้องที่ทำงานเก่า ชวนไปทำงานด้วย ก็ไปสัมภาษณ์งาน การตอบรับของน้องที่ชวนไปสมัครก็ โอเค แต่ไม่ได้ตอบตกลง เพราะ มาดูกำลังตัวเอง คงไม่เหมือนตอน อายุ 30 หน่อย ๆ ที่ไปลุยให้ พี่ป้อม แบบนั้นคงไม่ไหวแล้ว ก็เลย ขอรับ outsource แต่ก็ยังไม่มีเวลาไปหาลูกค้าให้
ไปสัมภาษณ์ ผ่าน Hunter ครั้งแรกของชีวิต
* ต้องขอขอบคุณทาง Hunter บริษัท ฯ นี่เป็นคนจุดประกายการสัมภาษณ์หรือให้เรา ค่อย ๆ พูด ภาษาอังกฤษ ผิด ถูกไม่ว่ากัน เขาเห็นว่าเราประหม่ามาก แต่ เขาให้ เราค่อย ๆ ผ่านความกลัวแล้ว ค่อย ๆ เล่า เอาศัพท์ง่าย ๆ ก่อน แล้วค่อยเล่ารายละเอียดก็ผ่านไปได้ด้วยดี ในการส่งต่อไปยัง บริษ้ท ลูกค้า
ไปมาแล้ว ก็ Fail ในระบบ HR เดิม ๆ คือ ไม่ได้ถามความรู้ทางด้าน online สักคำให้เล่าประวัติ แล้ว ก็พิจารณาด้วยภายนอก ก็เข้าใจ สุดท้ายก็ลาสวัสดี
* บริษัท ที่่ 2 ไปสัมภาษณ์มา (อันนี้หนักกว่าบริษัท แรก ) ก็ไม่ได้สนใจอะไร ถือว่ามาทักทายสวัสดี
กลับมามองตัวเองอีกรอบ กลับ เวลา ที่ผ่านไป และ ระยะเวลาที่เหลืออยู่
มีคนเคยบอกผมไว้ว่า ถ้าเดินหน้าแล้วเหนื่อยก็หยุดพัก หรือ อาจจะถอยหลังสัก 1 ก้าว อายุ 43 ปี มาดู พ่อ แม่ ตัวเอง กับ พ่อตา แม่ยาย อายุ ที่ท่านจากเราไป คือ 66 ปี
เท่ากับ เราเหลือเวลา อีกแค่ 23 ปี หรือ 8,300 กว่าวัน ทำไมสมอง เวลาเรา คิดแต่งานตลอดเวลา เหมือน ชีวิตที่ขาดไป อีก 2 ส่วนคือ ครอบครัว กับ ตัวเอง ก็เลยกับมาคิดใหม่
1. ผมไม่คาดหวังกับงานใหม่ ถ้าได้ก็ดี ไม่ได้ก็ไม่เป็นไร
2. กรณี ฟิวส์ขาด คือ อาจจะยื่นใบลาออกเลย แล้วขอเวลาไปพัก อาจจะไปหาที่ขายของเล็ก ๆ รวมถึง ขอให้เวลาท่องเที่ยวกับตัวเองสักพัก
3. อื่นๆ ยังไม่ได้คิด
เป็น บทสรุป 6 เดือนผ่านไป ใน ปี 2017 ผ่านเรื่องราวที่ไม่ค่อยน่าจะจดจำเท่าไหร่ในชีวิต ?
Webmaster
Anantachai ittiworapaong