ทำนายไว้ภายใน 10 ปี ตั้งแต่ 20 ธ.ค. 2010 เมื่อน้ำท่วมใหญ่ปี 2538 ไม่นึกเลยว่าจะมาเร็วขนาดนี้
เรื่องเล่าของคนชอบไหว้พระทำบุญ นั่งกรรมฐาน ปฏิบัติธรรม ตามรอยคุณแม่บุญเรือน เก็บไดอารี่มาเขียนเล่าสู่กันฟัง
ทำนายไว้ภายใน 10 ปี ตั้งแต่ 20 ธ.ค. 2010 เมื่อน้ำท่วมใหญ่ปี 2538 ไม่นึกเลยว่าจะมาเร็วขนาดนี้
R.I.P. Steve Jobs
จากความสำเร็จของบริษัทแอปเปิล ทำให้หลายฝ่ายสงสัยและต้องการทราบว่า เบื้องหลังความสำเร็จและแนวคิดในแบบแอปเปิลนั้นเป็นอย่างไร
วันนี้เรามี 10 วิธีในการคิดต่างตามแบบแอปเปิล ซึ่งถือเป็นกลยุทธ์ที่สำคัญ ที่ทำให้แอปเปิลพัฒนามาจนถึงวันนี้
เป็นที่รู้กันว่า พนักงานของบริษัทแอปเปิลตั้งแต่เริ่มทำงานมาจนถึงปัจจุบัน พวกเขาถูกปลูกฝังด้วยคำว่า Think Different หรือคิดต่าง ซึ่งแม้ว่าคำๆนี้จะมีลักษณะที่ค่อนข้างเป็นนามธรรม และปฏิบัติตามได้ยาก แต่ดูเหมือนว่าพนักงานของแอปเปิลทุกคนจะเรียนรู้ และปฏิบัติตามได้อย่างไม่มีปัญหา ซึ่งที่ผ่านมา ก็เป็นข้อพิสูจน์ได้ว่า การคิดต่างในแบบแอปเปิลนั้น ได้ทำให้บริษัทก้าวมาไกลเพียงใด
สตีฟ โทบัก ที่ปรึกษา นักเขียน และผู้บริหารระดับอาวุโสของบริษัทเทคโนโลยีชื่อดังของสหรัฐฯ ที่คร่ำหวอดในวงการมานานกว่า 20 ปี ได้ทำการศึกษาบุคคลที่ร่วมงานกับแอปเปิล ที่เขาเปรียบเทียบว่า วัฒนธรรมแบบแอปเปิลเหมือนการเปลี่ยนแปลงทางพันธุกรรมของบริษัทในสหรัฐฯ เพราะแอปเปิลได้ฉีกทุกกฎที่ทุกคนเคยทำไว้ ดังนั้นจึงเป็นเรื่องที่น่าศึกษาเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งโทบักได้ข้อสรุปออกมาเป็น 10 วิธีที่คิดต่างในแบบแอปเปิล ที่ทำให้บริษัทนี้ โดดเด่นกว่าบริษัทอื่นๆ และพลิกฟื้นจากบริษัทที่ใกล้ล้มละลาย มาเป็นบริษัทที่มีมูลค่าทางการตลาดสูงเป็นอันดับสองของโลก ดังนี้
1. เสริมสร้างให้พนักงานคิดต่าง พนักงานคนหนึ่งของแอปเปิลกล่าวว่า สตีฟ จ็อบส์มักจะพูดเสมอว่าเราต้องทำสิ่งที่แตกต่างจากคนอื่น และเขาเชื่อว่าพวกเราทำได้
2. สิ่งที่สำคัญคือการให้คุณค่า อย่าใส่ใจกับเรื่องเล็กน้อย พนักงานของแอปเปิลทุกคนเห็นว่าออฟฟิศเป็นสถานที่ที่สนุกที่จะทำงาน ดังนั้นพวกเขาจึงอยู่กันอย่างไร้กฎระเบียบ ใครจะทำอะไรก็ได้ แต่ว่างานต้องเสร็จเรียบร้อย ซึ่งโทบักเคยเข้าประชุมร่วมกับผู้บริหารของแอปเปิล ที่มาร่วมประชุมด้วยเท้าเปล่า ที่น่าแปลกก็คือไม่มีใครสังเกตเห็นซะด้วยซ้ำ
3. รักและใส่ใจกับผู้ริเริ่มสิ่งใหม่ๆอยู่เสมอ
4. ทำทุกสิ่งที่สำคัญ และทำจากใจ โทบักต้องข้อสังเกตว่า การบริหารงานของแอปเปิลนั้นจะไม่มีการแยกฝ่ายกันอย่างชัดเจน ทุกอย่างต้องทำภายใต้การรับผิดชอบร่วมกัน
5. ดูแลการตลาดอย่างใกล้ชิด จ็อบส์ให้ความสำคัญกับการทำการตลาดเป็นอย่างมาก โดยแอปเปิลจะไม่มีการจ้างบริษัทอื่นเพื่อมาทำการวิจัยทางการตลาด แต่พวกเขามีทีมเป็นของตัวเองในการรับผิดชอบเรื่องนี้
6. ควบคุมสาส์นที่จะสื่อออกไปถึงผู้บริโภค ซึ่งแอปเปิลจะมีวิธีการในการนำเสนอผลิตภัณฑ์และการประชาสัมพันธ์บริษัทที่ แตกต่างจากบริษัทเทคโนโลยีอื่นๆอย่างเห็นได้ชัด
7. สิ่งเล็กๆน้อยๆก็อาจสร้างความแตกต่างที่ยิ่งใหญ่ได้ พนักงานของแอปเปิลรู้ซึ้งถึงแนวคิดนี้เป็นอย่างดี ซึ่งตัวอย่างที่เห็นได้ชัดก็คือ ระหว่างการเปิดตัวไอโฟน 4 ซึ่งเป็นช่วงที่พนักงานทุกคนทำงานอย่างหนัก ผู้บริหารก็สั่งอาหารอย่างดีมาให้ บางสาขาถึงกับลงทุนจ้างพนักงานนวดมาเพื่อนวดคลายเส้นให้แก่พนักงานของแอ ปเปิลโดยเฉพาะ
8. อย่าปล่อยให้คนทำงานแต่เพียงอย่างเดียว แต่ต้องปล่อยให้พวกเขาทำงานให้ดีขึ้นเรื่อยๆ จ็อบส์เคยกล่าวเอาไว้ว่า หน้าที่หลักของเขาคือทำยังไงให้พนักงานทำงานดีขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งคำตอบก็คือ เขาจะต้องคอยผลักดันให้พนักงานทุกคนก้าวหน้า
9. เมื่อคุณค้นพบว่าสิ่งนั้นทำแล้วได้ผล จงทำต่อไปเรื่อยๆ แอปเปิลเป็นบริษัทที่ทำในสิ่งที่ตนเองถนัด และพัฒนาจนสิ่งนั้นๆล้ำหน้ากว่าคนอื่น
10. การคิดต่าง จ็อบส์เคยกล่าวไว้ในงานวันรับปริญญาของมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ดว่า อย่าปล่อยให้เสียงหรือความคิดของคนอื่น ดังกว่าเสียงหรือความคิดของตัวคุณเอง ดังนั้น ไม่ว่าสิ่งที่คุณคิดจะแตกต่างจากคนอื่นแค่ไหน จงเชื่อมั่นและทำต่อไป
เมื่อสังคมโลก Social Network ทำให้เรารู้ว่า คนเก่ง ๆ ที่มีความสามารถในส่วนของ computer ไม่ว่าจะะเป็นในส่วนของ คนเก่ง ๆ ที่ดูแล Network หรือ สังคม Social Network แม้กระทั้งการทำ Website เพื่อให้ตอบโจทย์วัตถุประสงค์ขององค์กร ต้องยอมรับว่าสมัยนี้นั้นการหาพนักงานที่ตอบโจทย์ในการทำงานนั้น แทบจะหายากมาก เพราะ Gen Y นั้น ส่วนใหญ่ เขาจะชอบทำงานผ่านระบบ Computer บางคนมีรายได้จาก google adsense มากกว่าเงินเดือน หรือ ให้บริการในส่วนของ hosting / หรือรับจ้างเขียน Website ทำงาน Graphic ก็ได้เงินมากโข สำในการหารายได้ที่ได้รับมาแต่ละเดือน แต่เมื่อคนเก่ง ๆ หลายคนที่รู้จัก ให้ไปเป็น Consultant นั้น บางทีตีโจทย์ไม่ออกว่า Consultant หรือที่ปรึกษานั้นทำอะไร แล้ว วัดผลจากอะไร ?
ในส่วนนี้มาจากประสบการณ์ ล้วน ๆ ที่ต้องเขียน Paper ให้องค์กร สำหรับการเป็นที่ปรึกษางานทางด้าน Online และ วางระบบในส่วนของการ E-commerce สามารถดู Profiles ได้ใน Website http://onlinemedia.idea2mobile.com
การทำเอกสารเป็นที่ปรึกษานั้นเริ่มต้น ” Proposal Scope of Consulting and Marketing Strategy”|
แยกออกมาเป็นหัวข้อดังนี้
Topic 1: Scope of Services Required:
(Include Project goals, objectives, type of work, project schedule, delivery method, estimated construction cost, etc.)
– วัตถุประสงค์ / เป้าหมายของโครงการออกมา สิ่งที่ลูกค้าต้องการที่ สิ่งที่เราต้องทำการบ้านเพิ่ม
– Delivery อะไรคือสิ่งที่ลูกค้าจะได้รับจากเป้าหมายดังกล่าว
– ระยะเวลาที่จะไปถึงเป้าหมาย รวมถึงสิ่งที่ต้องการเพิ่มเติม จาก สิ่งที่มีอยู่แล้ว
เช่น เมื่อเรารับงานทางด้านที่ปรึกษาในการวางระบบ และ หาแนวทางสำหรับทางออก ตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับโครงการ เราก็ต้องเขียนออกมาดังนี้
– ออกแบบวิเคราะห์ระบบ ตาม Requirement ที่ต้องการตามเป้าหมายที่ตั้งไว้
– จัดทำ Mock up รูปแบบ ของ Business Model ที่ต้องการตามเป้าหมายที่ตั้งไว้
– เข้าร่วมประชุมเสนอแนวทางของ ความเป็นไปได้ ของโครงการตามเป้าหมายที่ตั้งไว้
– แนะนำแนวทางการตลาด รวมถึง วิเคราะห์การดำเนินงานก่อนเริ่มงาน และ หลังจบงานเสนอเป็นรายงานเพื่อประเมินสรุป สิ่งที่ดำเนินการไปรวมถึงเสนอกลยุทธ์ต่อไปในอนาคต
ใน Topic ที่ 1 นั้น ต้องแยกรายละเอียดแต่ละหัวข้อ ออกมาอีกดังนี้
เป้าหมาย ของโครงการที่จะเสร็จ
รายละเอียดของ Project การทำงานแต่ละหัวข้อ ต้องมี Start Date – End Date ( วันที่เริ่มต้นของโครงการ – วันสิ้นสุดของโครงการ)
Topic ที่ 2 Scope of Work แต่ละวัตถุประสงค์ ภายใต้เงื่อนไขของการให้บริการดังกล่าวเป็นการตกลงว่าระหว่าง ลูกค้า (ผู้ว่าจ้าง) กับ ผู้ให้บริการให้คำปรึกษา ตาม Topic ข้อ 2.เพื่อบรรลุแนวทางในการทำการตลาดและเป้าหมายที่ต้องการโดยมีทีมงานในการบริหารการจัดการที่มีประสบการณ์เชี่ยวชาญทางด้านนี้โดยตรง
แบ่งออกเป็น
2.1. Meeting for Client ( การประชุมเพื่อรับ Requirement ) ประกอบไปด้วย Descriptions อะไรบ้างเป็นแต่ละหัวข้อ เป้าหมายของโครงการ แนวทาง ข้อจำกัด budget หรือ อื่น ๆ ที่ยังหาข้อสรุปไม่ได้ นั่นคือสิ่งที่ Consultant ที่รับงานต้องไปทำการบ้าน
Deliverables: ผลตอบกลับที่เสนอเป็นแนวทาง จากการไปทำการบ้านมาแล้ว ตามวัตถุประสงค์ มีการเปรียบเทียบข้อดี ข้อเสีย Budget หรือ แนวทางอื่น ๆ ในการไป Research มาแล้ว เมื่อได้ข้อสรุปและแนวทางในการพัฒนา Website ต่อ
2.2. Design Development Phase เมื่อ Requirement สรุปเบื้องต้นแล้ว แล้วมีการพัฒนาต่อ ในส่วนของ Consultants จะต้องมาดูงานในส่วนของ Design ต่อว่า ส่วนที่เราทำการบ้านมา Scope ที่มีการพัฒนานั้น กับสิ่งที่ Design นั้นเป็นไปในแนวทางเดียวกันหรือไม่
Deliverables: หน้าที่ส่วนของ Consultant จะต้องดู Scope นี้ไม่ให้ผิดทางในการพัฒนา รวมถึงต้องดูการประเมินงานของทาง Project Manager ว่าจะทำงานเสร็จทันหรือไม่ รวมถึงข้อเสนอแนะในระหว่างการพัฒนาว่าจะมีอะไรที่จะสามารถเพิ่มเติมเข้าไปได้ เพื่อให้ Project นี้สมบูรณ์ที่สุด
2.3. Summary of Project เมื่องานมีการพัฒนาตาม ข้อ 2.1 และ ข้อ 2.2 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ต้องสรุปภาพรวมทั้งหมดส่งให้ทางนายจ้างของทางเราในการประเมิน Project ที่เขาให้เรามาเป็นที่ปรึกษา ว่าไปแล้วกี่ %
2.4 Advise on the Project เมื่อ Project งานเรียบร้อยแล้ว ข้อเสนออื่น ๆ ในการเป็นทีปรึกษานั้น จะต้องทำอย่างไรต่อไปกับแนวทางในการตลาด ควรจะมองแผนต่อยอดให้ชัดเจน สำหรับในการทำธุรกิจ หรือ Business Model ต่อยอดให้กับลูกค้า
สำหรับการคิดค่าใช้จ่ายนั้น แยกออกเป็นท้ัง Project หรือ จะเป็นแบบรายเดือน ขึ้นอยู่กับข้อตกลงระหว่างลูกค้าและ เรา
ทั้งหมดที่สรุปนี้คือบางส่วนในการร่างหัวข้อทางด้าน เอกสารให้กับทางลูกค้า ให้ดูเป็น Professional สำหรับการรับงานครับ
ได้เป็นส่วนหนึ่งของการออกงานที่ Siam Marko Public Co.,Ltd. กับงานตลาดนัดโชว์ห่วยครั้งที่4 ในการออกงานเกี่ยวกับ ระบบ E-Commerce ของ Makro สำหรับในเนื้อที่นี้จะเอาบรรยากาศของงานมาให้ดูเผือว่าเสาร์ อาทิตย์นี้ว่างจะได้ไปดูกันที่ เมืองทองธานี Hall 2
Read moreพาเที่ยวงานตลาดนัดโชว์ห่วยที่เมืองทองธานีครั้งที่ 4
เป็นอีก 2 วัน 1 คืนที่พัทยา กับ กิจกรรมบริษัท ฯ ในการพักผ่อนสมองและร่วมกันทำกิจกรรมเพื่อความสามัคคี ครั้งนี้ถือว่า ได้เข้าร่วมน่าจะเป็นครั้งที่ 4 ได้แล้วมั้งสำหรับการไปทำกิจกรรมนอกบริษัท ฯ สนุกรื่นเริง ตามประสา พนักงาน อริยบทสนุกขนาดไหน ตามมาอ่านกัน
กิจกรรมครั้งที่ 1 Trip หัวหิน รอยยิ้ม สำหรับการเลี้ยงส่ง น้องฝึกงานที่ Tarad.com
กิจกรรมครั้งที่ 2 Trip หัวหินวันพักผ่อนนอกสถานที่กับ Tarad Solution
กิจกรรมครั้งที่ 3 PAI Trip at # Taradsolution
Read moreOuting พัทยา Trip พักผ่อนกลางปีกิจกรรมบริษัท TARAD Solution
เซ็นทรัลลาดพร้าว ปิดปรับปรุงไปวันนี้ 28 สิงหาคม 2554 กลับมาเปิดอีกครั้ง ไปซะหน่อยเนื่องจากใกล้บ้าน จะไปดูว่ามีอะไรเปลียนแปลงบ้าง หลังจากใช้ 2 ล้อ มอไซต์ออกจากบ้านลาดพร้าว 101 ไปถึงสถานที่หมาย เวลา 10.30 โอ๊ะ ที่จอดมอไซต์ยังเต็มแสดงว่าคนมาวันแรกนี่น่าจะเยอะมาก เข้าไปในห้างโอ๊ะเป็นจริงอย่างที่คิด จากการเดินเข้าไปชั้นใต้ดินนั้น ดูจากสภาพแล้วกลิ่นสี และ พื้นยังไม่ได้ขัด ร้านค้า หลาย ๆ ร้านยังลงสินค้าได้ไม่เต็มที่ เช้านี้มีอะไรบ้างสำหรับที่ไปเจอมา
Read moreReviews เซ็นทรัลลาดพร้าว หลังจากปรับปรุง เอาซะหน่อย
จากการตื่นเช้า มา office แล้วก็ทำ Present นำเสนอ ขายงาน เป็นแบบนี้มานานหลายปี สังเกตุเห็นตัวเองในกระจก บอกได้คำเดียวว่าน้ำหนักทำไมมันเพิ่มมากมายขนาดนี้ โดยเฉพาะ พารา นี่ ใน 2 สัปดาห์ต้องกิน 1 เม็ดแก้ปวดหัว ตื่นเช้ามาไม่สดชื่นเหมือนแต่เก่า ช่วงนี้เลยต้องหันมาปฏิวัติ ตัวเอง ด้วยการออกกำลังกาย เพื่อลดความอ้วน 10 โล ภายใน 4 เดือน ไม่รู้จะทำได้หรือเปล่า พอดีไป Search ใน Internet มา เห็นว่าเป็นประโยชน์ดีก็เลยเอามาประดับความรู้ใน Blog ซะหน่อย
Read moreเป็น Sales นอกจากดูแลบริษัท ฯ แล้วควรดูแลตัวเอง
Blog เมื่อวันแม่ปีที่แล้ว วันนี้มา up date ใหม่ ในวันแม่
ปีนี้เป็นปีที่ 3 ของวันแม่ ที่แม่ไม่ได้อยู่กับเรา หลาย ๆ ครั้งดูภาพเก่า ๆ แล้วก็คิดถึง ปกติวันแม่ แต่ละปี เราจะตื่นเช้า ลุกรี้ลุกรน จะขี่มอไซต์จากที่พัก กลับหนองแขมเสมอ แล้วก็จะไปให้แม่ทำกับข้าวให้กิน หรือ รวมตัว พี่น้องไปกินสุกี้ถือว่าเป็นวันครอบครัวอีกวันหนึ่ง อะไรที่แม่เราขอบที่สุด คือ การซ้อนขี่มอเตอร์ไซค์ บอกว่าลมเย็นดี พาไปวัดไร่ขิง ไหว้พระ พาไปดอนหวายกินก๋วยเตี๋ยวเป็ด เขาบอกว่านั่งรถไกล แต่ ก็สนุก แล้วชอบที่จะมองทางข้างหน้า เหมือนขี่มอไซต์เอง แล้วก็เล่านู้นเล่านี่ได้เป็นชั่วโมง เราเองก็สนุกถือว่าใกล้ชิดไปด้วย ครั้งหนึ่งเคยซื้อรองเท้ากีฬาให้ที่ The Mall แล้วก็ไปต่อราคา ลดได้ไหม เราก็เลยยื่นบัตรเครดิตไป บอกลดแล้ว ทั้ง ๆ ที่ก็ไม่ได้ลด เพราะรองเท้านี้ซื้อไปเต้น อารบิคที่หมู่บ้าน ลำกระบอง กับสมาคมของแก อะไรที่ชอบด่าเรามากกที่สุด คือ เงินกัดตูดหรือ มีเงินเป็นไม่ได้ชอบจังไปซื้อสินค้า IT อื้อจื่อ เฮ้าเลี่ยน (ภาษาจีนแต้จิ้ว) ชอบแสดงความอวดเก่ง อวดดี เป็นซะอย่างงี้ก็ยังเปลี่ยนไม่ได้
ย้อนกลับไปเมื่อ 20 -30 ปี เตาปูน คือ สถานที่ที่ แม่ เราขาย เต้าทึง ตลาดพลู เป็นเจ้าเดียวที่เทศกิจ กลั่นแกล้งตลอด รวมถึงแม่ค้าเองก็ชอบหน้าบ้างไม่ชอบขี้หน้าบ้าง ฝนตกที ก็ตากฝน เทศกิจมาก็หนี บางทียกหม้อน้ำเชื่อมไป น้ำตาร้องไห้ แล้วจะขายอะไร ลูกอีกต้อง 5 คน พรุ่งนี้ต้องไปโรงเรียนจะเอาอะไรกิน 4 ทุ่มก็ต้องรีบเก็บ กลัวไม่ทันรถเมล์สาย 66 เที่ยวสุดท้าย ขายดี ก็ดีใจหาย ขายไม่ดี ก็ต้องขายใหม่เป็นอย่างงี้ตลอด สิ่งที่สอนลูกทั้ง 5 คน คือ ความอดทนต่อสู้กับปัญหา ความลำบากที่ส่งเสียลูก 5 คนจนเรียนจบ เงินกว่าจะได้มาแต่ละบาท มันเหนื่อยยากเย็นมาก ทุกวันนี้ เราเองก็เป็นโรคการกลัวใช้เงิน เพราะภาพในอดีตมันฝังใจ
วันนี้คือวันแม่ภาพเก่า ๆ คงจะไม่มีอะไรไปมากกว่าภาพนี้ที่กินใจ และ ให้ความรู้สึกดี ๆ สำหรับลูกคนหนึ่ง รักแม่ครับ
ระบบ IVR (Interactive Voice response) เป็นการใช้ SMS ในการสมัครสมาชิกโดยมีค่าบริการ ต่อเชื่อมในการสมัครข้อมูลไม่ว่าจะเป็น 3 บาท 6 บาท หรือ 9 บาท นิยมมากในเมืองไทยเมื่อหลายปีก่อน โดยผู้ให้บริการเครือข่าย จะได้รับ Sharing จากบริการดังกล่าวประมาณ 50% ต่อการใช้ SMS 1 ครั้ง ซึ่งภาพด้านบนก็คือ IVR ของบริษัท ฯ หนี่ง http://www.neonworx.info/home.php ปัญหาของ IVR จะไม่มีปัญหาเมื่อ Service หรือ บริการนั้นเกิดจากความยินยอมของผู้บริโภคในการยินยอมเสียค่าใช้จ่าย เช่น การดูดวง หรือ พยากรณ์ต่าง ๆ
Read moreปัญหาของ IVR ผลประโยชน์ของบริษัทฯ ที่สคบ.มองข้ามไป
เป็น Contents ที่เขียนด้วยความรู้สึกจริง ที่เกิดขึ้นกับคนในครอบครัว พี่ชายผมเองที่เรียนจบมาอุทิศตน ให้กับทางธนาคารแห่งหนึ่ง เรียกย่อ ๆว่า Bank ม่วงในเมืองไทยแล้วกัน อายุงานก็มากกว่า 26 ปีในการทำงานสำหรับองค์กรนี้เพียงองค์กรเดียว ซึ่งตลอดเวลาผมเฝ้ามอง แกตั้งแต่ผมเรียนอยู่จนกระทั่งผมได้มาทำงาน ก็เห็น แกตื่นเช้า ขนาดที่เรายังไม่ตื่น แล้วก็กลับบ้านกว่าจะกลับบ้านได้ ก็ปาไปตี 1 ผมเองก็แปลกใจว่าทุ่มเทให้องค์กร ขนาดนี้แล้ว องค์กรน่าจะตอบแทนสิ่งที่ดีสำหรับ ลูกจ้างที่ทำงานได้ขนาดนี้ แต่ ณ วันหนึ่งของการทำงานที่ราบรื่นไปด้วยความเต็มใจ ก็มีเอกสารฉบับหนึ่ง Fax มาย้ายให้ย้ายสาขา เพราะหัวหน้างาน ทะเลาะกัน แล้วให้เราเข้าไปเคลียร์ ” ไม่มีข้อโต้แย้ง ไม่มีคำอธิบาย ว่าทำไมต้องไป” เพราะนั่นคือลูกจ้างที่คุณจะต้องโดนย้าย หรือ ว่า Rotate ตามสายงาน ขอไม่ไปได้ไหม คำตอบคือ “ไม่ได้”
การย้ายสาขาเป็นเรื่องปกติขององค์กรที่เขาทำกัน แต่ มามองกันลึก ๆ องค์กรที่เป็นองค์กรใหญ่ การเมืองมันก็ต้องมีเป็นเรื่องธรรมดา จะไปโฆษณาตามทีวี เรื่อง “ธรรมาภิบาล” นั้น อย่าได้ไปเชื่อโดยเด็ดขาด เพราะ พี่ชายผมได้ย้ายไปอยู่ สาขาใหม่ การแก้ปัญหา ควรจะมีระดับภาคที่คอยให้ความช่วยเหลือ Support แต่ มิใช่เลย ROI (ผลตอบแทนของเป้าสาขานั้นคุณจะต้องทำให้ได้ ไม่ว่าจะเป็น ยอดเงินฝาก ยอดประกัน ยอดอื่น ๆ) จะเชื่อหรือไม่ ถ้าบอกว่า ผู้จัดการสาขาที่นี่หลอกลูกค้า ว่าเงินฝากที่เอามาฝากดอกเบี้ยสูง แต่ ยังถอนออกไม่ได้คือ การทำยอดจากเงินประกัน , แล้ว เงินนอกระบบที่มาจากบ้านจัดสรรโครงการหนึ่ง เพื่อจ่ายให้ตำรวจนอกเครื่องแบบ นั้น การ Key ข้อมูล ตาม Process งานจะต้องเข้าบัญชี คล้าย ๆ กับ เงินเดือนเข้าระบบเรา จะต้องมีค่าธรรมเนียมบัญชีละกี่บาท ตามนโยบาย แต่ พี่ชายผมก็อย่างว่าทำงานมา 26 ปีไม่เคยย้ายไปทำงานองค์กรอื่น ๆ ผิดถูกก็ว่ากันไป แต่ถ้าเจอเส้นใหญ่ ว่า ถ้าไม่เข้าบัญชี แบบ Key ทีละบัญชี ผมจะไม่มาฝากที่นี่ มีขู่ว่า ถ้า ไอ้นี่อยู่ ผมจะไม่มาฝากที่นี่ คือ สรุป บีบให้พี่ชายผมอยู่ไม่ได้ ซึ่งถ้าจะ Report ไปที่สำนักงานใหญ่ คำตอบออกมา คือ แคร์ลูกค้ามาก่อน ผิดระเบียบช่างมัน นี่หรือ คือ ธรรมาภิบาล สำหรับ บริษัท ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์
ผมเป็นคนที่รักครอบครัวและพี่ชายมาก แต่ ไม่เป็นไร คนตัวเล็ก จะไปสู้ องค์กร ระดับใหญ่มันไม่ได้หรอก ผมเองก็ให้สัตยาบรรณไว้ว่า Bank ม่วงนี้ ผมจะไม่ขอมีธุรกรรมใด ๆ ทางด้านเงินฝาก เงินกู้ หรือ เงินอื่น ๆ อีกต่อไป สิ่งที่มีจะทยอยปิด แล้วก็จะไม่ใช้บริการ

ส่วนตัวของการทำงานทางด้าน Sales หรือพนักงานขาย รายได้ต่อเดือนจะมาจากเงินเดือน + ค่าคอมมิชชั่น ซึ่งแต่ละเดือน ขึ้นอยู่กับผลงานรวมถึงการเก็บเงินจากลูกค้าถึงจะทำเรื่องเบิกเงินค่าคอมมิชชั่นได้ รายได้แต่ละเดือนย่อมไม่เท่ากัน แต่ปัจจุบันต้องยอมรับว่าค่าใช้จ่ายของ Sales ในการออกไปพบลูกค้าแต่ละครั้งนั้น ค่าใช้จ่ายจะประกอบไปด้วย ค่าน้ำมัน ค่าซ่อมรถ ค่าอาหาร ค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ระหว่างทางเช่น ค่ากาแฟนอกสถานที่ ค่าข้าวในร้านอาหารกินฆ่าเวลา ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายที่จะต้องจ่ายแต่ละครั้ง รวมถึงราคาทุกอย่างนั้น ขึ้นมาแบบ 1,000 บาทใช้ได้ไม่เกิน 3 วัน ถามว่าเงินเฟ้อขนาดนี้บวกกับค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างจะสูงเป็นเงาตามตัว เราจะทำอย่างไรได้บ้างในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้
Read moreอาชีพ Sales อยู่อย่างไรในภาวะเงินเฟ้อ